“นิพนธ์” แนะ กกต. ศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาบัตรเสียและอัตราการใช้สิทธิ์ต่ำหลังพบบัตรเสียพุ่ง-ประชาชนเมินใช้สิทธิ์

“นิพนธ์” แนะ กกต. ศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาบัตรเสียและอัตราการใช้สิทธิ์ต่ำหลังพบบัตรเสียพุ่ง-ประชาชนเมินใช้สิทธิ์

 

4 กุมภาพันธ์ 2568 นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 8 สมัย ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น(ส.อบจ)และผู้บริหารท้องถิ่น(นายก.อบจ) ที่เพิ่งผ่านไป โดยมีประเด็นสำคัญที่ต้องให้ความสนใจ ได้แก่ ปัญหาบัตรเสียที่มีจำนวนมาก รวมถึงอัตราการใช้สิทธิ์ของประชาชนที่ต่ำกว่าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คาดการณ์ไว้


จากข้อมูลการเลือกตั้งครั้งล่าสุด พบว่าจำนวน “บัตรเสีย” ของการเลือกตั้ง นายก อบจ. ทั้ง 47 จังหวัด คิดเป็น 5.69% หรือประมาณ 931,290 ใบ ของจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ทั้งหมด และการเลือกตั้ง ส.อบจ. ทั้ง 76 จังหวัด พบว่ามี บัตรเสีย คิดเป็น 5.63% หรือประมาณ 1,488,086 ใบ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงเป็นประวัติการณ์ในบางพื้นที่และส่งผลต่อคุณภาพของผลการเลือกตั้ง นายนิพนธ์ชี้ให้เห็นว่า ปัญหาดังกล่าวอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การออกแบบบัตรเลือกตั้งที่ซับซ้อน ความเข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้ง หรือข้อผิดพลาดทางเทคนิคที่เกิดขึ้นระหว่างการลงคะแนน นอกจากนี้ จำนวนบัตรที่ประชาชนเลือก “ไม่ประสงค์ลงคะแนน” ให้กับผู้สมัครรายใดเลย หรือ “โหวตโน” ก็มีอัตราสูงขึ้น โดยการเลือกตั้งนายก อบจ. คิดเป็น 7.08% หรือประมาณ 1,158,201 ใบ และการเลือกตั้ง ส.อบจ. คิดเป็น 6.81% หรือประมาณ 1,799,344 ใบ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่พึงพอใจของประชาชนต่อทางเลือกทางการเมืองที่มีอยู่ นายนิพนธ์ระบุว่า สาเหตุของแนวโน้มดังกล่าวอาจมาจากความไม่ไว้วางใจต่อระบบการเมือง การขาดทางเลือกที่เหมาะสม หรือความไม่พึงพอใจต่อผู้สมัครที่มีอยู่ ซึ่งส่งผลให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งซ่อมใหม่ถึง 4 จังหวัด หรือมีปัจจัยอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

นายนิพนธ์เน้นย้ำว่า กกต. จำเป็นต้องเร่งศึกษาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง เพื่อให้กระบวนการเลือกตั้งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างแท้จริง การเลือกตั้งควรเป็นเครื่องมือที่สะท้อนเสียงของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส ไม่เพียงแต่การเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านมาเท่านั้น แต่ควรนำไปพิจารณาปรับปรุงเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดซ้ำในการเลือกตั้งท้องถิ่นระดับเทศบาลและ อบต.ที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้นี้

ท้ายที่สุด นายนิพนธ์เรียกร้องให้ กกต. มีมาตรการที่ชัดเจนในการให้ความรู้และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมถึงการพัฒนาแนวทางการจัดการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาธิปไตยไทยเดินหน้าไปอย่างมั่นคงและสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างแท้จริง

 

Related posts